กรดไหลย้อน กินอย่างไรให้ห่างไกลโรคนี้
วันนี้เรามีวิธีการกินเพื่อให้ห่างไกลโรค กรดไหลย้อน มาฝากค่ะ มาดูกันซิว่าพฤติกรรมการกินตอนนี้เสี่ยงอยู่หรือไหม แล้วจะมีวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอย่างไรไปดูกัน
เป็นที่ทราบกันดีว่า พฤติกรรมในการรับประทานอาหาร เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญของสาเหตุที่ส่งเสริมให้เกิดอาการ กรดไหลย้อน ปวดแสบปวดร้อนบริเวณหน้าอกและลิ้นปี่ เรอเปรี้ยว มีรสขม ยังไม่พอยังเป็นสาเหตุให้มีกลิ่นปากอีกด้วย เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ลองมาสำรวจพฤติกรรมการรับประทาน รวมถึงอาหารที่จะช่วยทำให้ห่างไกลจากภาวะ กรดไหลย้อนหรือทำให้อาการบรรเทาเบาบางลง
ลด งด เลิก
หลังรับประทานอาหารทันที หลีกเลี่ยงการนอนราบ การออกกำลัง การยกของหนัก เอี้ยวตัว หรือก้มตัว
รับประทานแต่พอดี ไม่ควรกินอิ่มจนเกินไป
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อดึก ไม่ควรรับประทานอาหารใดๆ อย่างน้อยภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมงก่อนนอน
หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยการทอด อาหารมัน ฟาสต์ฟู้ด เนย นม
หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดแก๊ส เช่น ถั่วทุกชนิด อาหารที่มีเครื่องเทศมากๆ หรือพืชผักที่มีกลิ่นแรง เช่น หัวหอม กระเทียม เป็นต้น
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มบางประเภท เช่น กาแฟ ชา ชอคโกแลต น้ำอัดลม เครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์
หลีกเลี่ยงผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะเขือเทศ เป็นต้น
กินอย่างไร ห่างไกลกรดไหลย้อน
ผู้ที่เป็นโรค กรดไหลย้อน อย่าเพิ่งถอดใจว่า ดูจากรายการพฤติกรรมการรับประทานที่ควรงด ลด และหลีกเลี่ยงแล้ว จะเหลืออะไรที่สามารถรับประทานได้อีก ความจริงยังมีอาหารที่เป็นมิตรกับผู้มีภาวะ กรดไหลย้อน อีกมากมายที่สามารถรับประทานได้ ส่วนอาหารทั่วไปก็รับประทานได้บ้าง เพียงแต่ควรปรับพฤติกรรมการรับประทาน ซึ่งอาหารที่เป็นมิตรกับผู้เป็น กรดไหลย้อน เช่น
อาหารที่ย่อยง่าย ที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลานึ่ง ปลาต้ม ข้าวกล้องต้ม ขนมปังโฮลวีท
อาหารที่ไม่กระตุ้นให้เกิดการหลั่งกรด เช่น มันฝรั่ง มันเทศ
ผักและผลไม้ที่มีสภาพความเป็นด่าง เช่น กล้วยน้ำว้า ซึ่งมีเส้นใยเพ็คตินที่ช่วยในการรระบายท้องให้สบาย
เครื่องดื่ม ไม่ควรเป็นเครื่องดื่มที่สร้างกรดหรือแก๊ส ควรรับประทานน้ำเปล่าดีที่สุด
กรดไหลย้อน ถึงแม้ว่าจะเป็นภาวะเรื้อรัง เพียงแค่ปรับพฤติกรรมและปรับอาหาร ก็สามารถลดความรุนแรงของโรคได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น