วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557

ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดีแค่ไหนต้องพิสูจน์

    ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดีแค่ไหนต้องพิสูจน์






    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

             
    ประโยชน์ของน้ำมะนาวเปรี้ยวจี๊ด ชงดื่มอุ่น ๆ สักแก้วยามเช้าก็ทำให้ร่างกายสดชื่น สดใสไปตลอดทั้งวัน แถมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกเพียบ ดูซิมีอะไรบ้าง  

               อย่างที่เรารู้กันดีกว่าน้ำมะนาวมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะใช้ในการลดน้ำหนัก แต่รู้หรือไม่ว่าการดื่มน้ำมะนาวอุ่น ๆ ตอนเช้าก่อนการทานอาหารก็จะช่วยทำให้มีสุขภาพที่ดีได้ด้วย เหมือนที่เว็บไซต์ tasty-yummies.com ได้บอกเล่าเอาไว้ถึงประโยชน์ของการดื่มน้ำมะนาวในตอนเช้า ลองตามไปดูกันจ้า

     ช่วยย่อยอาหาร

              น้ำมะนาวจะช่วยล้างสารพิษและสิ่งที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย เพราะในน้ำมะนาวนั้นมีองค์ประกอบคล้ายคลึงกับน้ำลายและกรดไฮโดรคลอริกที่อยู่ในน้ำย่อย ส่งผลให้ตับผลิตน้ำดีซึ่งเป็นกรดที่จำเป็นในการย่อยอาหาร นอกจากนี้มะนาวยังมีแร่ธาตุและวิตามินสูง ช่วยขับสารพิษที่อยู่ในระบบทางเดินอาหาร ฤทธิ์ในการย่อยของกรดที่มีอยู่ในน้ำมะนาวนั้นจะช่วยบรรเทาอาการเกี่ยวกับอาหารไม่ย่อย อย่างเช่น กรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องเฟ้อได้ นอกจากนี้สมาคมมะเร็งในอเมริกายังแนะนำว่าควรจะดื่มน้ำมะนาวอุ่น ๆ เพื่อกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ไม่มีสารตกค้างซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งในลำไส้ได้

     ช่วยดีท็อกซ์และเป็นยาขับปัสสาวะ 

               น้ำมะนาวจะช่วยขจัดสิ่งต่าง ๆ ในร่างกายออกผ่านออกทางปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยทำให้ระบบทางเดินปัสสาวะทำงานดีขึ้น นอกจากนี้กรดซิตริกในน้ำมะนาวยังจะช่วยเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยกระตุ้นตับและช่วยในการล้างสารพิษอีกด้วย



     ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน

                มะนาวมีวิตามินซีสูงช่วยต่อสู้โรคหวัด และยังมีโพแทสเซียมสูงซึ่งจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและเส้นประสาท ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตด้วย วิตามินซีที่พบในมะนาวนั้นยังช่วยต่อต้านการอักเสบ และช่วยรักษาโรคหอบหืด และโรคอื่น ๆ เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย ซึ่งธาตุเหล็กนี้มีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันอย่างมาก แถมมะนาวเปรี้ยวจี๊ดยังมีซาโปนินซึ่งช่วยต่อต้านเชื้อไข้หวัดและลดเสมหะในร่างกายได้

     ปรับสมดุลของค่า pH ในร่างกาย 

               แม้ว่ามะนาวมีทั้งกรดซิตริกและแอสคอร์บิก ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด แต่เมื่อผสมกับน้ำดื่มแล้วน้ำมะนาวจะมีฤทธิ์เป็นด่าง หรือที่เราเรียกว่า Alkaline Water ซึ่งจะช่วยในการลดความเป็นกรดในเลือด อีกทัั้งแร่ธาตุที่อยู่ในมะนาวยังช่วยปรับสมดุลความเป็นด่างให้แก่เลือด การดื่มน้ำมะนาวเป็นประจำจะช่วยลดความเป็นกรดในร่างกายโดยเฉพาะกรดยูริคซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอาการปวดและการอักเสบ

     ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง

               วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ สามารถช่วยลดริ้วรอย สิว แก้ปัญหาผิวมัน ทำให้ผิวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล และช่วยฆ่าแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว แถมยังช่วยทำให้สุขภาพผิวดีจากภายในสู่ภายนอก เราสามารถนำมะนาวมาใช้กับแผลเป็นโดยตรงเพื่อทำให้แผลเป็นจางลงได้อีกด้วย ได้ยินแบบนี้แล้วสาว ๆ จะไม่ดื่มน้ำมะนาวได้ไงล่ะเนอะ



     ช่วยเพิ่มพลังและทำให้อารมณ์ดีขึ้น

              พลังงานของมนุษย์ส่วนใหญ่มาจากอะตอมและโมเลกุลในอาหารซึ่งประกอบด้วยโมเลกุลประจุบวก ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะทำให้ร่างกายทำงานช้าลง แต่มะนาวก็เป็นหนึ่งในอาหารไม่กี่ชนิดที่มีโมเลกุลประจุลบในปริมาณสูง จึงช่วยทำให้ร่างกายมีพลังมากขึ้น นอกจากนี้กลิ่นของน้ำมะนาวยังช่วยปรับอารมณ์ที่ขุ่นมัวให้ดีขึ้น ช่วยชำระล้างจิตใจยังช่วยลดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วยล่ะ

     ช่วยรักษาแผลและลดการอักเสบ

              วิตามินซีที่อยู่ในน้ำมะนาวมีคุณสมบัติในการรักษาแผลและเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการบำรุงรักษากระดูกเนื้อเยื่อและกระดูกอ่อน นอกจากนี้วิตามินซียังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ลดความเครียด ลดอาการบาดเจ็บและช่วยทำให้สุขภาพดีอีกด้วย

     ลมหายใจสดชื่นขึ้น

              นอกจากทำให้ลมหายใจสดชื่นแล้ว น้ำมะนาวยังช่วยบรรเทาอาการปวดฟันและโรคเหงือกอักเสบได้ แต่กรดซิตริกที่อยู่ในน้ำมะนาวนั้นสามารถกัดกร่อนเคลือบฟันได้เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อให้การดื่มน้ำมะนาวได้ผลดีมากกว่าผลเสียเราก็ควรจะแปรงฟันก่อนที่จะดื่มน้ำมะนาว และควรจะบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหลังจากที่ดื่มทุกครั้งค่ะ


     เติมความชุ่มชื่นให้ร่างกาย

              น้ำมะนาวและน้ำอุ่นจะช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงโดยการให้ความชุ่มชื้นและเติมของเหลวในร่างกายที่หายไป เมื่อร่างกายของคุณขาดน้ำ จะทำให้เกิดผลกระทบมากมาย อาทิเช่น รู้สึกเหนื่อย ท้องผูก ภูมิคุ้มกันต่ำ ความดันโลหิตต่ำ หมดแรง นอนไม่หลับ อารมณ์ไม่ดีและรู้สึกเครียด

     ช่วยลดน้ำหนัก

               มะนาวมีไฟเบอร์สูงซึ่งทำให้เรารู้สึกอิ่ม จึงช่วยควบคุมความอยากอาหารได้ มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ที่บริโภคอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่างจะทำให้สามารถลดน้ำหนักได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นการดื่มมะนาวในตอนเช้าจะช่วยทำให้ความอยากอาหารลดลงและสามารถลดน้ำหนักได้จริง


              ทราบอย่างนี้แล้วเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงหันมาให้ความสนใจในการดื่มน้้ำมะนาวอุ่น ๆ ในตอนเช้าเพิ่มขึ้นใช่ไหมล่ะคะ แล้วก็ใครที่ทดลองแล้วได้ผลดี ก็อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะจ๊ะ

วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557

6 สมุนไพรไทย ที่ลำไส้ต้องการ

6 สมุนไพรไทย ที่ลำไส้ต้องการ


 ทำงานมาเหนื่อยๆ ลำไส้ของเราก็อยากได้อาหารบำรุงเหมือนกันนะ และสมุนไพรทั้ง 6 ชนิดคือคำตอบที่กระเพาะและลำไส้ต้องการให้เราไปเสริมสุขภาพของมัน
ใบแมงลัก น้ำมันหอมระเหยจากใบแมงลักเป็นยาช่วยย่อยชั้นเซียน ลำไส้ใครไม่ค่อยทำงานจนท้องอืดท้องเฟ้อเป็นประจำ ลองชิมใบแมงลักสักสี่ห้าใบแล้วจะติดใจ

พริกสด ความเผ็ดซู่ซ่าของพริกคืออยากกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งน้ำลายออกมา จากนั้นเอนไซม์ของน้ำลายจะช่วยย่อยแป้งให้อ่อนตัวลง กระเพราะกับลำไส้จะได้ไม่ต้องทำงานโหลดจนเกินไป

หอมแดง แค่กินหอมแดงอย่างเดียว ลำไส้คุณก็ยิ้มแล้ว เพราะเท่ากับซื้อหนึ่งได้ถึง สี่ ได้แก่สารฟลาโวนอยส์ ไกลโคไซต์ เพคติน และกลูโคคินิน 4 สารบำรุงลำไส้และช่วยย่อยและทำให้เจริญอาหาร คุ้มกว่านี้มีอีกไหม

ใบกระเพรา ถึงชื่อเสียงของกระเพราจะมืดมนไปมาก ตั้งแต่ผักกระเพราถูกตั้งชื่อว่าผักสิ้นคิด แต่สรรพคุณของมันยังแจ่มเหมือนเดิม โดยเฉพาะสรรพคุณในการขับน้ำดีในกระเพราะอาหารมาช่วยย่อยอาหารที่เรากินเข้าไป

ตะไคร้ ให้เคี้ยวกิน แต่กินยากเกินไปหน่อย แต่ถ้าทำเป็นชาตะไคร้ หรือซอยบางๆกินกับยำ คงไม่ลำบากมากเกินไปสำหรับคนรักสุขภาพ สรรพคุณของตะไคร้เริ่ดไม่แพ้ใบกระเพรา คือช่วยขับน้ำดีออกมาย่อยอาหารเหมือนกัน สาวๆที่มีปัญหาอาหารไม่ย่อยไม่ควรพลาด

กระเทียม มีสูตรเด็ดเคล็ดลับสำหรับคนที่มีอาการอาหารไม่ย่อยมาฝาก ให้เอากระเทียมมา 5 กลีบแล้วสับละเอียด กินทันทีหลังอาหาร กระเทียมจะช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารจอมขี้เกียจของคุณยอมย่อยอาหารมื้อนั้นแต่โดยดี ถ้ากินทุกวันไม่นานอาการอาหารไม่ย่อยก็จะหายไปเอง

ล้างพิษตับ ทำเพื่ออะไร ?


ล้างพิษตับ ทำเพื่ออะไร ?

แม้สรรพคุณของการดีท็อกซ์ตับที่เล่าลือกันมา จะเลิศเว่อร์จนดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องนี้ไม่จริง หรือไม่ดีนะ แต่ทำแล้วดีแค่ไหน? วิธีง่าย ๆ มีไหม? 

ทุกวันนี้ร่างกายคนเรารับสารพิษต่าง ๆ เข้าไปมากมาย ทั้งยาฆ่าแมลง สารกันบูด สารปรุงแต่งในอาหารต่าง ๆ เหล้า บุหรี่ แม้แต่ยารักษาโรคที่กินเข้าไปก็ถือเป็นสารพิษชนิดหนึ่งเหมือนกัน และหน้าที่หนึ่งของ "ตับ" ก็คือทำลายสารพิษ ดังนั้น เมื่อร่างกายมีสารพิษเยอะ ตับก็ต้องทำงานหนัก เราจึงต้องหันมาใจดูแลอวัยวะชิ้นนี้กันสักหน่อย


ตับนั้น สำคัญไฉน?

หน้าที่ของตับมีมากมายหลายร้อยอย่าง หลัก ๆ ก็จะเกี่ยวข้องกับการสร้างโปรตีน เม็ดเลือด ฮอร์โมน และน้ำดีที่จะช่วยในการย่อยอาหารจำพวกไขมัน การทำลายสารพิษต่าง ๆ ที่รับเข้ามา รวมถึงของเสียที่ร่างกายผลิตขึ้นมาเอง และการกักเก็บเลือด ไขมัน อาหารไว้ให้ร่างกายใช้ในยามจำเป็น ทำให้เราสามารถอดอาหารได้นานเป็นวัน ๆ

ถึงแม้ตับจะเป็นโรงงานทำลายสารพิษ แต่อย่าเข้าใจผิดว่าตับเป็นแหล่งสะสมของสารพิษนะคะ คุณหมอวัชชิระ ชี้ว่า เมื่อสารพิษเข้ามาในร่างกายก็จะไปอยู่ในเลือด ไม่ได้คั่งอยู่ตับ เมื่อเลือดพาสารพิษเข้ามากำจัด ตับก็จะแปรสภาพให้เป็นของที่ไม่เป็นพิษต่อร่างกาย ถ้าเป็นสารที่ละลายน้ำก็จะขับออกทางไตระบายไปเป็นเหงื่อและปัสสาวะ แต่ถ้าเป็นสารที่ไม่ละลายน้ำก็จะขับออกมาทางน้ำดี ผ่านมาทางลำไส้ใหญ่ ผสมปนออกไปกับอุจจาระ

แล้วทำไมเรายังต้องดีท็อกซ์ตับ?

ร่างกายเรามีระบบกำจัดของเสียอยู่แล้ว แต่การดีท็อกซ์ก็เป็นเหมือนตัวช่วยที่จะเร่งกระบวนการนี้ให้เร็วขึ้น และให้เวลาตับได้ทำลายพิษเก่า ๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายมากขึ้น เนื่องจากทุกวันนี้เรารับสารพิษกันเข้าไปไม่หยุดหย่อน ในขณะที่ความสามารถของตับก็มีจำกัด เมื่ออัตราการทำลายไม่เท่ากับอัตราการรับ อาการเจ็บป่วยก็จะเกิดขึ้นได้

ดีท็อกซ์ตับ ทำได้ยังไง

สูตรการดีท็อกซ์ตับที่พูดถึงกันอย่างมากในช่วงนี้เป็นสูตรที่ผู้คิดค้นคือ คุณแก่นฟ้า แสนเมือง ได้ผสมผสานวิธีการล้างพิษในต่างประเทศกับภูมิปัญญาแพทย์แผ่นไทย มีการจัดเข้าแคมป์เพื่อดีท็อกซ์ตับโดยเฉพาะ กระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 6 วัน หลักการสำคัญแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนคือ

1. ในช่วง 4 วันแรกอดอาหาร ดื่มเพียงเครื่องดื่มที่ไม่มีมาก และดื่มน้ำลิดท็อกซ์ (เครื่องดื่มสมุนไพรชนิดหนึ่ง) แทนอาหาร

2. ทำการสวนล้างลำไส้จนแน่ใจว่าไม่มีอะไรตกค้างแล้ว

3. ดื่มน้ำดีเกลือ และในช่วงเวลาที่ท่อน้ำดีเปิดกว้างที่สุดตามนาฬิกาชีวิต (22.00 น.) ให้ดื่มน้ำมันมะกอก 150 ซี.ซี. ผสมน้ำมะนาว 150 ซี.ซี. และดีท็อกซ์ออกในช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น เมื่อในลำไส้ไม่มีสิ่งตกค้าง จึงเชื่อกันว่าสิ่งที่ออกมานั้นน่าจะออกมาจากตับและถุงน้ำดี

ทำตามสูตรนี้แล้วดีแค่ไหน?

เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าวิธีการนี้ก็เป็นหนึ่งในการแพทย์ทางเลือกที่ได้ผลและ น่าสนใจ ถ้าวิเคราะห์ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่พอจะบอกได้ถึงประโยชน์ของการทำดีท็อกซ์ตามสูตรดังกล่าว เรื่องแรกก็คือ ผลจากการอดอาหาร เมื่อเราไม่กินอาหารก็หมายถึงเราจะงดรับสารพิษเข้าสู่ร่างกายไปโดยปริยาย เมื่อไม่มีพิษใหม่ ๆ ร่างกายก็จะกำจัดพิษตกค้างได้อย่างเต็มที่

เรื่องถัดมาก็คือ การดื่มน้ำมันมะกอก ทุกครั้งที่ร่างกายเราได้รับไขมัน ก็จะมีการส่งสัญญาณให้ตับผลิตน้ำดีออกมาเพื่อช่วยในการย่อย เมื่อดื่มน้ำมันมะกอกเข้าไปจำนวนมาก น้ำดีก็จะถูกผลิตออกมามาก และเนื่องจากตับจะขับสารพิษส่วนหนึ่งออกมาทางน้ำดี กระบวนการนี้จึงเหมือนกับเพิ่มการพาสารพิษออกจากร่างกายนั่นเอง อีกอย่างการที่น้ำดีถูกผลิตออกมามาก ๆ ยังทำให้ความเข้มข้นเปลี่ยนไป นิ่วในถุงน้ำดีที่เกิดจากการตกตะกอนของคอเลสเตอรอลก็จะละลาย มีขนาดเล็กลง หรือหายไปได้

สรรพคุณไม่ได้ดีเลิศครอบจักรวาล

แม้แต่ผู้ที่จัดหลักสูตรล้างพิษตับเองยังเคยกล่าวไว้ว่า หลักสูตรนี้ไม่ใช่หลักสูตรรักษาคนป่วย คนป่วยควรจะไปหาหมอที่มีหน้าที่โดยตรง คนมาเข้าหลักสูตรต้องมีร่างกายแข็งแรงพอที่จะเข้าร่วมกิจกรรมได้ ดังนั้น อย่าคาดหวังว่าการดีท็อกซ์ตับจะสามารถช่วยเหลือคุณได้ทั้งหมด ประโยชน์ของการดีท็อกซ์ตับยังไม่มีการค้นคว้าวิจัยอย่างจริงจัง และยังไม่มีการพิสูจน์ในเชิงวิทยาศาสตร์

ในเรื่องของสิ่งที่ออกมาหลังจากการดีท็อกซ์ที่มาระบุว่าอันนี้เป็นนิ่ว อันนั้นเป็นมะเร็งนั้น คุณหมอวัชชิระบอกว่า ท่อน้ำดีของคนเราที่ใหญ่ที่สุดมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตรเท่านั้น ไม่มีทางที่ก้อนใหญ่ ๆ ที่เราเห็นจะเป็นนิ่วที่หลุดมาจากถุงน้ำดีได้ น่าจะเป็นผลของปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่เรากินเข้าไปต่างหาก การที่คนมีนิ่วในถุงน้ำดีแล้วนิ่วหายไปหลังจากดีท็อกซ์ น่าจะเป็นเพราะนิ่วนั้นละลายไปมากกว่าจะหลุดออกมาทั้งก้อน และบางคนที่ไม่มีมีนิ่วในถุงน้ำดีเลย เมื่อกินสิ่งที่เขาให้กินตามสูตรก็จะอออกมาลักษณะอย่างนั้น เช่นนั้น

ส่วนกรณีที่มีคนไข้หายจากมะเร็งนั้นก็ไม่ได้ หมายความว่าก้อนมะเร็งหลุดออกมาจากการดีท็อกซ์ต้องเข้าใจก่อนว่าปกติทุกคนมี เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในตัวทุกวันอยู่แล้ว แต่ร่างกายเราจัดการไม่ได้ มะเร็งจึงเติบขึ้นมา มีความเป็นไปได้ว่าเมื่อล้างพิษออกไปแล้วสุขภาพก็ดีขึ้น ภูมิต้านทานของร่างกาย ก็แข็งแรงจนสามารถจัดการกับเซลล์มะเร็งได้

ดูน่ากลัว แต่เป็นเรื่องปกติ

หลังจากเห็นสิ่งที่ออกมาจากการดีท็อกซ์หลายคนอาจจะถึงกับช็อกกับภาพของเสีย ที่เห็นและกลิ่นเหม็นที่รุนแรง คุณหมอบอกว่ารูปลักษณ์และกลิ่นแย่ ๆ ของสิ่งที่ออกมานั้นเป็นเพราะกระบวนการย่อยยังไม่เสร็จสิ้น เราก็ไปสวนล้างลำไส้เร่งให้เขาออกมา มันถึงดูน่ากลัวว่าอุจจาระตามปกติหลายเท่า แต่ไม่ได้หมายความว่าอวัยวะข้างในของเราเน่าหรือสกปรกแต่อย่างใด

โพสต์แนะนำ

5 เฮิร์บ แฮร์ เซรั่ม 5 HERB HAIR SERUMผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม(ไม่ต้องล้างออก)

                                              5 เฮิร์บ แฮร์ เซรั่ม  5 HERB HAIR  SERUM ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม(ไม่ต้องล้างออก) ผมห...