วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หอมแดงป้องกันโรคหัวใจ



"หอมแดง"...ป้องกันโรคหัวใจ

สรรพคุณทางยา 
มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ การบริโภคหอมแดงเป็นประจำจึงสามารถลดระดับคลอเรสเตอรอลและช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดไขมันในเส้นเลือดที่เป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ สารในหอมแดงมีคุณสมบัติต้านหรือยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์และแบคทีเรียด้วย 

โบราณไทย
ใช้หอมแดงแก้หวัดโดยใช้หัวหอมตำ สุมหัวเด็ก ลดอาการคัดจมูก แก้ไข้อ่อนๆ เหมาะใช้กับทารก 

หัวหอมสด 15-30 กรัม ต้มเอาน้ำกินแก้ท้องเดิน ท้องอืดแน่น ขับลม 

น้ำหัวหอมใช้ดมเวลาเป็นลม เป็นยาบำรุงหัวใจ 

นำหัวหอมมาย่างไฟ หรือฝานบางๆ ใช้พอกแผล ฝีหรือสิว ลดอาการอักเสบ แก้บวมช้ำ ทำให้ร่างกายอบอุ่น ขับเหงื่อ 

นำมา “รักษาสิวและลดรอยด่างดำ” ได้ด้วยวิธีนำหัวหอมแดงที่ล้างสะอาดแล้วมาฝาน ให้เป็นแว่นบาง ๆ ใช้ทา หรือแปะไว้ที่บริเวณที่เป็นสิว ฝ้า หรือ จุดด่างดำ หรือวางแว่นหอมแปะไว้บนรอยบวมจากการบีบสิวหรือรอยด่างดำบนใบหน้า ทาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก ทำเช่นนี้ทุกวันประมาณหนึ่งสัปดาห์ สิว ฝ้า หรือจุดด่างดำจะจางลง หากไม่ใช้วิธีฝานเป็นแว่นสามารถคั้นเอาเฉพาะน้ำของหัวหอมแล้วนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อดับกลิ่นและลดความซ่าที่อาจทำให้แสบผิว จากนั้นนำมาทาเม็ดผดผื่นคันหรือทาใบหน้าก่อนเข้านอนทุกวันจะช่วยฆ่าเชื้อ แบคทีเรียและลดความมันบนใบหน้า จึงไม่ก่อให้เกิดสิว 

ส่วนข้อควรระวังในการใช้ประโยชน์ จากน้ำหอมแดงคือ ในหัวหอมแดงจะมีสารกำมะถันซึ่งทำให้แสบตา แสบจมูกและทำให้ผิวหนังมีอาการระคายเคือง ปวดแสบปวดร้อน จึงไม่ควรทาบริเวณจุดที่ใกล้เคียงกับที่กล่าวมา 

เกร็ดความรู้หั่นหอมอย่างไรไม่ให้ร้องไห้ 
เมื่อเราหั่นหอม จะเกิดแก๊สที่ระเหยง่าย ฟุ้งกระจายในอากาศ 
เข้าสู่ตาและจมูก ทำให้ดวงตาเกิดการระคายเคือง น้ำตาไหล
กลเม็ดในการป้องกันน้ำตาไหลเวลาหั่นหอม มีวิธีที่น่าลองดังนี้

ลอกเปลือกหอมและแช่ในตู้เย็น ประมาณ 30 นาที ก่อนที่นำมาหั่นเพื่อลดอุณหภูมิในการระเหยของแก๊ส

หั่นหัวหอมใต้น้ำไหล เพื่อให้แก๊สละลายน้ำไป

ล้างมือและหัวหอมให้เปียกก่อนหั่น เพื่อให้น้ำที่มือและหัวหอมทำปฏิกิริยาเคมีกับแก๊ส

หั่นหัวหอมใต้พัดลมดูดควัน เพื่อกำจัดแก๊สที่เกิดขึ้นค่ะ


โดย ทางแพทย์สายพุทธ 
ข้อมูลเพิ่มเติม baanjomyut

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558



ประโยชน์ของมะเขือเทศ 28 ข้อ!!!

1.ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน
2.มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรัยแห่งวัย
3.น้ำมะเขือเทศช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
4.ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
5.มีวิตามินเอซึ่งมีส่วนชวยบำรุงสายตา
6.มะเขือเทศ มีบีตาแคโรทีน และฟอสฟอรัสในปริมาณมาก
7.มะเขือเทศช่วยในการรักษาสิว ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้า หรือฝานบาง ๆแล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
8.ช่วยทำให้ผิวหน้าเต่งตึงสดใส ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้า หรือฝานบาง ๆแล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
9.มะเขือเทศใช้นำมาทำเป็นน้ำผลไม้ 
10.เป็นที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารได้หลายเมนู เช่น ข้าวผัด ซุป ยำต่าง ๆ เป็นต้น
11.ช่วยใหร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคหอบหืดได้มากถึง 45%
12.ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม หริออัลไซเมอร์
13.ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน
14.ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
15.มะเขือเทศมีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ
16.ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
17.ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
18.ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ การเกิดโรคหัวใจวาย สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ
19.ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
20.ช่วยในระบบย่อยในกระเพาะอาหารและช่วยในการขับถ่ายอุจจาระได้สะดวก
21.ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา หรือเชื้อราที่ปาก
22.ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
23.ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45% หากรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ
24.ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ ในเพศหญิง
25.ซอสมะเขือเทศหมักผม ด้วยการใช้มะเขือเทศหมักผมจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนไปของสีผม อันเนื่องมาจากการว่ายในน้ำในสระที่มีคลอรีน
26.ซอสมะเขือเทศนำมาใช้ขัดเครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของคุณให้เงางามเหมือนเดิมได้ ด้วยนำซอสมะเขือเทศมาถูแล้วล้างน้ำออก
27.ซอสมะเขือเทศช่วยในการดับกลิ่นคาว เศษอาหาร กลิ่นปลาสลิดได้เหมือนกันนะ เพียงแค่เปิดฝาซอสทิ้งไว้ 1 คืนเท่านั้น
28.ซอสมะเขือเทศช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังจากการหกล้ม หรือถูดมีดบาดได้


ขอขอบคุณข้อมูลจากชมรมรักษ์สุขภาพ

cr : นานาสาระเพื่อสุขภาพที่ดี


** อาหาร 10 อย่างที่ไม่ควรกินมากเกิน **

แนวคิดศาสตร์แพทย์แผนจีนมาวิเคราะห์ โดยใช้หลักแพทย์แผนปัจจุบันประกอบ...

อาหารที่ไม่ควรกินมากเกิน หรือบ่อยเกินไปได้แก่...

1. ไข่เยี่ยวม้า:
ไข่เยี่ยวม้ามีสารตะกั่วค่อนข้างสูง ตะกั่วทำให้การดูดซึมแคลเซียมน้อยลง กินบ่อยๆ จะเสี่ยงโรคกระดูกโปร่งบาง และอาจได้รับพิษสารตะกั่วเช่น สมองเสื่อม และเป็นหมัน ฯลฯ

2. ปาท่องโก๋:
กระบวนการทำปาท่องโก๋ มีการใช้สารส้ม ซึ่งมีสารตะกั่วปนเปื้อน สารตะกั่วทำให้ไตทำงานหนักในการขับสารนี้ออกไป นอกจากนั้นยังทำให้คอแห้ง เจ็บคอง่าย โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคร้อนในได้ง่าย

3. เนื้อย่าง:
กระบวนการรมไฟ ย่างไฟทำให้เกิดสารเบนโซไพรีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง

4. ผักดอง:
ผักดอง และของหมักเกลือทำให้ร่างกายได้รับเกลือโซเดียมสูง ถ้ากินบ่อยเกิน หรือมากเกินจะทำให้หัวใจทำงานหนัก เกิดความดันโลหิตสูง และเกิดโรคหัวใจได้ง่าย นอกจากนั้นกระบวนการหมักดองยังทำให้เกิด สารแอมโมเนียมไนไตรด์ ซึ่งเป็นสาร ก่อมะเร็ง

5. ตับหมู:
ตับหมูมีโคเลสเตอรอลสูง การกินตับหมูบ่อยเกิน หรือมากเกินทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ เส้นเลือดสมอง (อัมพฤกษ์-อัมพาต) และโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น

6. ผักขม ปวยเล้ง:
ผักขมและปวยเล้งมีสารอาหารสูง ทว่า... มีกรดออกซาเลตมาก ทำให้เกิดการขับสังกะสี และแคลเซียมออกจากร่างกายมาก การกินบ่อยเกิน หรือมากเกินอาจทำให้เกิดภาวะขาดแคลเซียม หรือสังกะสีได้

7. บะหมี่สำเร็จรูป:
บะหมี่สำเร็จรูป มีสารกันบูด สารแต่งรสค่อนข้างสูง และมีคุณค่าทางอาหารต่ำ การกินบะหมี่สำเร็จรูปมากเกินไปหรือบ่อยเกินอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคขาดสารอาหาร และการสะสมสารพิษได้

8. เมล็ดทานตะวัน:
เมล็ดทานตะวันมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ทว่า... การกินมากเกิน หรือบ่อยเกินอาจทำให้เกิดกระบวนการเคมี (metabolism) ในร่างกายผิดปกติ ทำให้เกิดการสะสมไขมันในตับ ภาวะไขมันในตับสูงอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคตับ เช่น ตับแข็ง ฯลฯ เพิ่มขึ้น

9. เต้าหู้หมัก เต้าหู้ยี้:
กระบวนการหมักเต้าหู้ อาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรคได้ง่าย... ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคนสูงอายุ หรือเด็กเล็กได้ นอกจากนี้กระบวนการผลิตยังทำให้เกิดไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย

10. ผงชูรส:
คนเราไม่ควรกินผงชูรสเกินวันละ 6 กรัม หรือประมาณ 1 ช้อนชา... การกินผงชูรสมากเกิน หรือบ่อยเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะกรดกลูตามิกในเลือดสูงอาจทำให้ปวดหัว ใจสั่น คลื่นไส้ และมีผลเสียต่ออวัยวะสืบพันธุ์


(เครดิต : นานาสาระเพื่อสุขภาพที่ดี)

โพสต์แนะนำ

5 เฮิร์บ แฮร์ เซรั่ม 5 HERB HAIR SERUMผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม(ไม่ต้องล้างออก)

                                              5 เฮิร์บ แฮร์ เซรั่ม  5 HERB HAIR  SERUM ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม(ไม่ต้องล้างออก) ผมห...