วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การล้างพิษ (Detoxication )


                          
                           การล้างพิษ
                           (Detoxification)
หนึ่งในกระบวนการปรับสมดุลร่างกาย ก็คือ การล้างพิษ” (Detoxification) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า ดีท็อกซ์หมายถึงวิธีการ หรือกระบวนการนำเอาสารพิษ (Toxic Substances หรือ Toxin) ต่างๆ ออกจากร่างกาย”  ทำไมเราจึงต้องมีการล้างพิษกันด้วย ต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า วิถีชีวิตของผู้คนในสมัยนี้และสภาพแวดล้อมต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป รอบๆ ตัวเราเต็มไปด้วยสารพิษ ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่เราดื่ม อากาศที่เราหายใจ อาหารที่เรารับประทาน และยังมีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รอบๆ ตัวเรา ล้วนปะปนไปด้วยสารพิษ ตลอดจนความเครียด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุให้เกิดการเจ็บป่วยต่างๆ ที่คนในอดีตไม่เป็นกัน

อาการ ที่บ่งชี้ว่า ร่างกายมีสารพิษตกค้าง เช่น เหนื่อยง่าย ปวดศีรษะ ภูมิแพ้ เจ็บป่วยบ่อย ลมหายใจมีกลิ่น เป็นต้น การปรับสมดุลให้กับอวัยวะสำคัญต่างๆ ในร่างกายด้วยการล้างพิษ จึงมีความสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการป้องกันโรค ความแก่หรือ "ความเสื่อมของร่างกาย ตามที่กล่าวมานี้

การล้างพิษสามารถทำได้หลากหลายวิธีและหลายอวัยวะ เช่น การล้างพิษที่ลำไส้  ตับ, สมอง, ผิวหนัง และเลือด
ลำไส้ เป็นการสวนล้างลำไส้ใหญ่เพื่อล้างและกําจัดกากใยอาหาร ที่อาจตกค้างอยู่ตามรอยหยักของลําไส้ใหญ่ และอาจเป็นของเสียที่มีพิษ ทำให้ของเสีย และสารพิษตกค้าง ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งอาการเจ็บป่วยอันไม่พึงประสงค์ต่างๆ ให้หมดไป และช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนกระตุ้นให้มีการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่มีสิ่งอุดตันก็จะดูดซึมสารอาหารต่างๆ เข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น หลังการสวนล้างลำไส้ ก็ควรเพิ่มแบคทีเรียดีให้กลับเข้าสู่ร่างกายเพื่อความสมดุลของระบบการทำงาน ส่งผลให้การดีท็อกซ์ดีขึ้น และไม่ควรทำบ่อยเกินไป และควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
ตับ เป็นหนึ่งในอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในร่างกาย มีหน้าที่กรองสารพิษจากอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาและวิตามินต่างๆ ที่รับประทานเข้าไป, ช่วยในการแข็งตัวของเลือด, สร้างเม็ดเลือดแดงใหม่, ทำลายเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ, สลายกรดอะมิโนให้เป็นยูเรีย, สร้างน้ำดีในการช่วยให้ไขมันแตกตัว, เผาผลาญอาหารและคอเลสเตอรอล ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในทุกวันนี้ มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการบั่นทอนสุขภาพอยู่นานัปการ ทั้งที่เราตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ตับต้องทำงานอย่างหนัก ซึ่งอาจส่งผลทำให้ตับเสื่อมสภาพได้ง่าย การดูแลตับให้มีสภาพดี จะช่วยป้องกันปัญหาโรคเรื้อรัง ร้ายแรงต่างๆ ได้ ในศาสตร์การชะลอวัยวะ เชื่อว่าถ้าตับทำงานดี ขับสารพิษได้ดี ร่างกายก็จะไม่สะสมสารพิษจนเกิดโรค ดังนั้น การดีท็อกซ์ หรือล้างพิษให้กับตับ จึงมีส่วนช่วยเพื่อช่วยให้ตับแข็งแรงขึ้นและทำงานได้ดีขึ้น

ผิวหนัง  เป็น อวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย เป็นส่วนที่สามารถแสดงผลของสารพิษที่ตกค้างในร่างกายได้ไวที่สุดส่วนหนึ่ง โดยอาจแสดงอาการในรูปการเป็นผื่นแพ้ เป็นสิวเรื้อรัง ผื่นคันต่างๆ หรือความเหี่ยวย่น หมองคล้ำก่อนวัย ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงสภาวะภายในร่างกายได้   การดีท็อกซ์ผิวก็คือ การล้าง หรือขจัดสารพิษจากภายในออกผ่านผิว โดยสารตกค้างบางอย่างจะถูกขับออกทางผิวหนังได้ดี เช่น ยาฆ่าแมลงที่สะสมในร่างกาย โดยที่เราไม่รู้ตัว หรือเพื่อไม่ให้ตกค้างจนเกิดเป็นอันตราย อาการภูมิแพ้ต่างๆ การปรับสมดุลให้กับผิว กระตุ้นภูมิคุ้มกัน กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น สามารถดูดซึมสารอาหาร หรือสารบำรุงต่างๆได้ดียิ่งขึ้น หลังทำจึงรู้สึกได้ถึงความสดใส เปล่งปลั่งของผิวอย่าชัดเจน               

สมอง เป็นอีกอวัยวะที่มีความสำคัญกับการ ทำงานระบบต่างๆ ในร่างกาย เป็นศูนย์รวมของระบบประสาท สารสื่อประสาท และการควบคุมอวัยวะต่างๆ เป็นอวัยวะที่มีการเสื่อมอยู่ตลอดเวลา เซลล์สมองถ้าถูกทำลาย หรือตายไป จะไม่สามารถเกิดขึ้นใหม่มาทดแทนได้ ปัญหาที่เกิดจากความเสียหายของเซลล์สมอง คือ อาการอัมพาต อาการควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ไม่ได้ หรือแม้แต่เสียชีวิต ถ้าสมองหยุดสั่งการ ดังนั้น การดูแลการทำงานให้สมองมีประสิทธิภาพสูงให้ยาวนานขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ ด้วยการเสริมสารอาหารต่างๆ ที่ช่วยบำรุงสมองให้ตรงจุด จึงเสมือนการปรับสมดุลให้กับส่วนควบคุมการทำงานทั้งหมดของร่างกาย ทำให้ห่างไกลจากโรค อย่างอัลไซเมอร์, พาร์กินสัน และโรคที่เกี่ยวกับการทำงานของสมองอื่นๆ ด้วย

เลือด เป็น ส่วนที่นำเอาสารอาหารต่างๆ และออกซิเจนไปสู่อวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย จึงนับว่ามีความสำคัญอย่างมากในการหล่อเลี้ยงร่างกาย การไม่กระจายตัวของเลือด การไหลเวียนที่ไม่ดี การสะสมสารพิษในการแสเลือด รวมทั้งสารอาการส่วนเกินที่ตกค้างในหลอดเลือด เช่น ไขมัน หรือโปรตีนที่ดูดซึมไม่หมด รวมทั้งโลหะหนักต่างๆ จากอาหารทะเล หรือสารเคมีต่างๆ ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หลอดเลือดตีบ หลอดเลือดโป่งพอง เป็นต้น ดังนั้น การช่วยขับสารพิษออกจากเลือด จะทำให้หลอดเลือดสะอาด การไหลเวียนดีขึ้น และสามารถนำออกซิเจน และสารอาหารต่างๆ ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น

จะเห็นได้ว่า อวัยวะที่มีความสำคัญกับกลไกการทำงานต่างๆ ของร่างกายเหล่านี้ ถ้าได้มีการปรับสมดุล ล้างสารพิษออกไป เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ร่างกายของเราก็จะกลับมาสดใส มีชีวิตชีวา กลับมาเป็นหนุ่มเป็นสาว การป้องกันโรค ความแก่ไว้ ย่อมดีกว่าปล่อยให้ความแก่มาถึงตัวแล้วค่อยไปรักษาโรคต่างๆ ที่เข้ามาหาเราตลอดเวลา

การทานน้ำมันมะกอก ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย





               การทานน้ำมันมะกอก ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย
ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ทำให้หลอกเลือดสะอาด  นักวิจัยมหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา ค้นพบว่า ผู้ใหญ่ที่ทานน้ำมันมะกอกชนิด Extra Virgin วันละ 5 ช้อนชา ติดต่อกันหนึ่งสัปดาห์ นอกจากระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีหรือ LDL จะลดลงแล้ว ปฏิกิริยาออ็กซิเดชั่นของ LDL ยังลดลงอีกด้วย (นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ LDL เป็นไขมันตัวร้ายที่ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและหัวใจหยุดเต้น) คงต้องยกความดีให้น้ำมันมะกอกที่ช่วยเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในกระแสเลือด
ช่วยลดน้ำหนัก  นักวิจัยจาก Brigham and Women's Hospital รวบรวมอาสาสมัครคนอ้วนทั้งหมด 101 คน เพื่อทำการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบจากการทานน้ำมันมะกอก โดยกำหนดให้อาสาสมัครครึ่งหนึ่งต้องลดน้ำหนักโดยรับประทานอาหารไขมันต่ำ (ได้รับพลังงาน 20% จากไขมัน) ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ต้องลดน้ำหนักโดยรับประทานอาหารที่มีไขมันระดับปานกลาง (ได้รับพลังงาน 35% จากไขมัน) ซึ่งรวมถึงการรับประทานถั่วและน้ำมันมะกอกเป็นประจำทุกวัน ผลที่ได้คือ ทั้งสองกลุ่มลดน้ำหนักได้ใกล้เคียงกัน แต่กลุ่มที่สองที่ได้รับประทานไขมันที่เหมาะสมมากกว่าสามารถคงน้ำหนักตัวได้ นานกว่ากลุ่มที่ได้รับประทานแต่อาหารไขมันต่ำ
อีกด้านหนึ่งนายแพทย์ มาร์แชล โกลด์เบิร์ก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาต่อมไร้ท่อ ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโทมัส เจฟเฟอร์สัน ให้คนไข้รับประทานน้ำมันมะกอก Extra Virgin ปริมาณ 2 ช้อนชา ก่อนมื้ออาหาร 20 นาที เพื่อให้รู้สึกอิ่มและรับประทานอาหารได้น้อยลง วิธีง่ายๆ คือ ให้บิขนมปังกรอบๆจิ้มน้ำมันมะกอกสัก 2-3 ชิ้น ก็น่าจะได้ปริมาณ 2 ช้อนชาตามที่ต้องการแล้ว แพทย์ยังได้แนะนำอีกว่าถ้าทานน้ำมันมะกอกกันเพียวๆ วันละ 1 ช้อนโต๊ะ ก่อนอาหารเช้าทุกวันจะช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ และยังส่งผลดีต่อกระเพาะอาหาร ช่วยป้องกันการย้อนกลับของอาหารสู่หลอดอาหาร ที่ลำไส้ก็ทำให้ย่อยง่าย ด้านระบบเลือด ก็มีคอเลสเตอรอลที่ดีเพิ่มขึ้น ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ ทั้งยังพบกรดโอลิคที่จำเป็นในกระบวนการสร้างมวลกระดูกในน้ำมันมะกอกด้วย ที่สำคัญช่วยบำรุงสมอง ป้องกันการเกิดภาวะความจำในสมองลดลง (โรคสมองเสื่อม) ซึ่งผลพิสูจน์ออกมาแล้วว่า ผู้ที่มีอายุยืนยาวโดยมากจะพบในประเทศกรีก ซึ่งประชากรของประเทศ จะบริโภคน้ำมันมะกอกถึง 26 ลิตรต่อคน/ปี

ประโยชน์ของการล้างพิษตับ



           

ประโยชน์ของการล้างพิษตับ
1.Rejuvenate :Reversal of the Aging Process        
  รู้สึกกระชุ่มกระชวย กระปรี้กระเปร่า เป็นหนุ่มเป็นสาวขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง
2.Inner and Outer Beauty                                                                           งามทั้งภายในและภายนอกมีผิวพรรณสดใส  รู้สึกสะอาด เบิกบาน   ร่าเริงแจ่มใส ปลอดโปร่งทั้งกายและใจ                                                                      
3.Improved Digestion, Energy and Vitality                                                                      ระบบย่อยอาหารดีขึ้น พละกำลังดีขึ้น  มีชีวิตชีวาและมีความสุข                                             
4.Freedom from Pain                                                                                                                                         หายจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วย การเจ็บปวดที่ต้องทนทุกข์ทรมาน                                                                 
5.A Disease Free Life                                                                                                                                ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ไม่ต้องรับประทานยา                                                  
6.A More Flexible  Body                                               ทุกส่วนของระบบร่างกายดีขึ้นรู้สึกแคล่วคล่องว่องไว กระฉับกระเฉง มีกำลังวังชา และเบิกบาน                                                                                                                                               
7.Improved EmotionalHealth                                         มี   สุขภาพจิตที่ดีขึ้นปราศจากความขุ่นมัวในจิตใจ ความโกรธเกรี้ยวโมโหโกรธาหายไปสิ้น
8.A Clearer Mind and Improved Creativity
รู้สึกปลอดโปร่ง ผ่องใส ฉลาดเฉลียวและเพิ่มพูนพัฒนาความคิดสร้างสรรค์

โพสต์แนะนำ

5 เฮิร์บ แฮร์ เซรั่ม 5 HERB HAIR SERUMผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม(ไม่ต้องล้างออก)

                                              5 เฮิร์บ แฮร์ เซรั่ม  5 HERB HAIR  SERUM ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม(ไม่ต้องล้างออก) ผมห...